การหลอกลวงไม่ได้เกิดขึ้นด้วยวิธีที่ตายตัวเสมอไป แต่การหลอกลวงมีรูปแบบที่คุณสามารถสังเกตได้เพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น:

• มิจฉาชีพจะขอให้คุณส่งเงินโดยการแสร้งทำเป็นว่าเป็นเหตุการณ์ฉุกเฉิน หากคุณยังไม่เคยพบตัวจริงของบุคคลนั้นมาก่อน เป็นการดีที่สุดที่จะไม่ส่งเงินให้บุคคลเหล่านั้น
• หากรหัสผ่านของคุณคาดเดาได้ง่ายหรือเข้าถึงได้ง่าย มิจฉาชีพสามารถแฮกเข้าบัญชีของคุณได้ ใช้รหัสผ่านที่ยากต่อการคาดเดาและไม่แบ่งปันรหัสผ่านให้กับใคร
• มิจฉาชีพใช้อีเมล โซเชียลมีเดีย ข้อความตัวอักษร และการโทรติดต่อทางโทรศัพท์เพื่อดึงดูดความสนใจของคุณ โดยปกติแล้ว ข้อความของมิจฉาชีพจะใช้ภาษาที่ผิดหลักไวยากรณ์และมีการสะกดผิดในที่อยู่อีเมล ก่อนที่คุณจะตอบกลับ ตรวจสอบให้ถี่ถ้วน

หลังจากที่คุณยื่นคำร้องการฉ้อโกงแล้ว แผนกป้องกันการฉ้อโกงของเราจะตรวจสอบคำร้องของคุณ หากจำเป็น ทีมงานของเราจะติดต่อคุณเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม เราอาจคืนเงินการโอนเงินของคุณ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานะการโอนเงิน คุณจะได้รับอีเมลจากเราพร้อมสถานะคำร้องของคุณ

สิ่งสำคัญคือต้องจดจำไว้ว่า Western Union ไม่สามารถจับมิจฉาชีพได้ เราร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเพื่อช่วยในการสืบสวนและดำเนินคดีกับผู้ที่ใช้ประโยชน์จากบริการของเราในการฉ้อโกง

หากคุณเชื่อว่าการโอนเงินของคุณถูกส่งไปยังบุคคลที่ไม่ถูกต้อง ให้ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของเราทันทีเพื่อยกเลิกการโอนเงิน หากการโอนของคุณไม่มีผู้ไปรับ ยังไม่ได้ส่งหรือยังไม่ได้ฝาก คุณจะได้รับเงินคืนเต็มจำนวนจากการโอนนั้น

เราแจ้งให้ผู้คนทราบเกี่ยวกับการฉ้อโกงผ่านช่องทางต่างๆ พร้อมนำเสนอเคล็ดลับและแหล่งข้อมูลให้กับลูกค้าของเรา และลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้เราสามารถป้องกันการฉ้อโกงได้ดียิ่งขึ้น เมื่อมีการรายงานการฉ้อโกง เราสนับสนุนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายด้วยการให้ข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นเพื่อสืบสวนการหลอกลวง

โปรดส่งต่ออีเมลนั้นถึงเราตามเดิมไปยังที่อยู่อีเมล spoof@westernunion.com โปรดทราบว่าการดำเนินการนี้ไม่ได้หมายความว่ามียื่นคำร้องการฉ้อโกง หากต้องการรายงานการหลอกลวง คุณต้องยื่นคำร้องการฉ้อโกงออนไลน์ หรือ โทรติดต่อสายด่วนการฉ้อโกงของเรา